ได้เวลาท่องเที่ยวประจำปี ของสมาชิกซอย 20/5 กันอีกครั้ง
ครั้งนี้มาหาดสามร้อยยอด 20 - 22 พค. 66
เราพัก 2 ที่ คือ เดอะบีชรีสอร์ท 1 คืน
กับ บ้านชมตะวัน (ครั้งแรก) 1 คืน
สาเหตุที่มาพักที่บ้านชมตะวันด้วยเพราะอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง เพราะเราพักที่เดอะบีชกันหลายหนแล้ว และก็เคยแวะมาสำรวจเมียงๆมองๆ เวลาขับผ่านบ้านชมตะวันหลายหน ครั้งนี้ได้พักสมใจอยากซะที ตั้งใจว่าถ้าสถานที่ใหม่ดีก็จะพักอีกแต่ถ้าไม่ถูกใจก็จะยึดเดอะบีชต่อไป..
ครั้งนี้มากันสามครอบครับ ขาดครอบครัวพ่อซันติดภาระกิจมาไม่ได้ น่าเสียดายมาก
คืนแรกวันที่ 20 เราพักเดอะบีชส่วนคืนวันที่ 21 ไปพักที่บ้านชมตะวัน อยู่ใกล้ๆร้านอิ่มอกอิ่มใจที่เราไปกินข้าวกันบ่อยๆ ห่างกัน 300 เมตร
- 20 พค. 66
เราออกเดินทางกันตอนแปดโมงเช้าของวันที่ 20 ด้วยรถสองคัน ลุงศักดิ์ กับ เจี๊ยบ ส่วนลุงป๋องกับป้านาไปรถเจี๊ยบ วิ่งเส้นพระราม2 ธนบุรีปากท่อที่ก่อสร้างไม่เลิก
สายๆ เกือบสิบโมงก็ถึงวังมะนาว แวะกินมือเช้ากันที่ร้านครัวบ้านขวัญร้านเดิม
ใช้เวลากินข้าวไม่นานก็เดินทางต่อ ก็วิ่งยาวๆ ไปหาดสามร้อยยอด
- ถึงเดอะบีช ประมาณบ่ายโมงครึ่ง
จองห้องเดิมๆที่คุ้นเคย เจี๊ยบห้อง ก.ไก่, ลุงศักดิ์ห้อง 1 และลุงป๋องห้อง 2
ขนของเข้าห้องกันได้สักพัก เดินไปเดินมาสักพักรู้สึกหิวก็เลยให้เฮียผัดกระเพรามากินกันคนละจาน ตามด้วยเบียร์คนละสองกระป๋อง
ประมาณบ่ายสี่โมงเย็นครึ่ง ป้าฬุอยากไปเดินเล่นตลาดลงเล ก็ขับไปกัน อยู่สุดถนนด้านขวา
- ได้เวลาชาบู อาหารเย็น
อาหารมือเย็นเริ่มต้นประมาณหกโมงเย็น
เราตั้งเตากินชาบูกันที่ล๊อบบี้ริมทะเลของเดอะบีช ทีแรกตั้งใจจะตั้งเตากินกันที่โต๊ะข้างห้องเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่วันนี้ไม่มีคนอื่นมาพัก ก็เลยยึดล๊อบบี้ซะเลย ก็สะดวกดีเหมือนกันไม่ต้องขึงเชือกแขวนไฟโยงปลั๊กไฟให้รำบาก พัดลมก็ยืมเฮียสองตัวสบายไป แต่ก็รู้สึกขาดบรรยากาศเก่าๆไปหน่อยนึงนะ....
แม่บ้านเตรียมหาซื้อหมูและเครื่องปรุงต่างๆมาจากบ้าน อุปกรณ์ ก็เอามาจากบ้านครบครัน
เรากินกันอย่างเอร็ดอร่อย สนุกสนาน เฮฮา กินไป ฟังเสียงคลื่นทะเลไป มีความสุข
จนสามทุ่มกว่าๆ ก็เริ่มอิ่ม ทะยอยเก็บของ เบียร์หมดไป 9 ขวดเอง นี่แสดงว่า เราแก่กันแล้วใช้มั๊ย ..ฮ่าๆๆๆๆ
เก็บอุปกรณ์เรียบร้อย ก็แยกย้ายกันเข้าห้องพักประมาณสี่ทุ่ม
เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้า
- วันที่ 21 มูฟออน
ทุกคนตื่นเช้ามาจิบกาแฟกันที่ล๊อบบี้ แล้วก็ออกไปเดินรับลมเย็นๆ กับบรรยากาศอาทิตย์ขึ้นแต่เช้า ได้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะแยะมากมาย พอเหนื่อยก็กลับเข้ามานั่งพักจิบกาแฟที่เฮียเตรียมไว้ให้
สายๆสั่งข้าวผัดกระเพราเฮียมากินกันคนละจาน
- ย้ายออกไปพักที่บ้านชมตะวัน
เกือบๆ เที่ยงก็ขนของขึ้นรถเสร็จก็ล่ำลาเฮียและเดอะบีชที่คุ้นเคย ออกเดินทางมุ่งตรงสู่บ้านชมตะวันที่ไปไม่ไหลนัก
แป๊บเดียวก็ไปถึง แต่ยังไม่ได้เวลาเข้าพักก็เลยต้องไปหาข้าวกินกันก่อน ซึ่งเป็นมื้อกลางวันพอดี
เราไปกินข้าวกันที่ร้านเดิมที่คุ้นเคยคืออิ่มอกอิ่มใจ ห่างจากบ้านพักประมาณ 300 เมตร
กินไปคุยไป ถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ รอเวลาจนบ่ายสอง ก็ได้เวลาเข้าที่พักได้
- เข้าบ้านพักชมตะวัน บ่ายสอง
ที่บ้านชมตะวัน ครั้งนี้เป็นการเข้าพักครั้งแรกของทุกคน หลังจากที่เคยมาแวะสำรวจก่อนแล้วเมื่อครั้งที่มากับครอบครัวลุงศักดิ์เมื่อ พย.64 และชะเง้อมองทุกครั้งเวลาขับผ่านไปกินข้าวที่อิ่มอกอิ่มใจหรือตอนไปไหว้พระวัดเขากระโหลก
แล้วครั้งนี้ได้พักสมใจ
ที่นี่มีคนดูแลชื่อลุงเล็ก แกเล่าว่า เจ้าของที่พักเป็นนายทหารเกษียณราชการ อายุประมาณเจ็ดสิบกว่าเป็นคนอัมพวา มาซื้อที่ทำรีสอร์ท จ้างลุงเล็กซึ่งเป็นคนพื้นที่เป็นผู้จัดการดูแลและมีทหารเกณฑ์สองคนคอยช่วยลุงเล็กดูแลอีกที
สิ่งที่พบเจอที่นี่ คือ เราได้พบกับสถานที่ที่พวกเราประทับใจ ทั้งห้องพักที่ยังดูใหม่ทันสมัย สถานที่บรรยากาศโดยรอบกว้างขวาง เงียบสงบ ติดทะเล เป็นส่วนตัวดี ที่นี่เป็นบ้านหลังเล็กๆ มีเพียง 5 หลัง วันที่เราไปพักก็ 3 หลัง ที่เหลืออีก 2 หลังไม่มีใครมา ยิ่งมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก เหมือนกับเราเหมารีสอร์ทกันเลยทีเดียว
ที่นี่มีที่ให้เดินเล่นเยอะแยะ โดยเฉพาะสวนมะม่วงหลังที่พัก บรรดาแม่บ้านเดินเล่นสนุกสนานกันมากมาย
ห้องพักก็ใกล้ทะเล มองเห็นทะเลได้ง่ายๆ
หน้าห้องพักก็มีศาลา มีซุ้มให้นั่งเล่น และนั่งทานอาหารกันได้อย่างสะดวกสบาย
เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูปกันเยอะแยะมากมาย มีนกให้ถ่ายเยอะเลย
- อาหารมื้อเย็น
มือเย็นค่ำๆวันนี้ เราออกมานั่งกินกันที่ซุ้มศาลาด้านหน้ารีสอร์ท ริมทะเล บรรยากาศดีมากมาย ชอบกันทุกคน
แม่บ้านเล็ก ป้านา และป้าฬุ ก็จัดการอาหารการกิน มือนี้คุณนายเล็กผัดกระเพราให้กิน โดยเอาหมูที่เหลือจากกินชาบูที่เดอะบีชมาผัด ส่วนข้าวเปล่าก็ขับไปซื้อที่ร้านอิ่มอกอิ่มใจ และเลยไปหาสปาย น้ำแข็ง ใกล้ๆ แถวนั้นด้วย
ส่วนเบียร์ ลุงเล็กให้ทหารคนดูแลไปหาซื้อมาให้แล้วตั้งแต่เย็น เพราะถ้าใช้ชื่อลุงเล็กจะซื้อได้ถูกกว่ากันห้าบาท
ส่วนถ้วยชามช้อนก็ยืมที่รีสอร์ท
ประมาณเกือบๆ ทุ่ม ทุกอย่างก็พร้อม
เรากินกันไป เฮฮากันไป พ่อบ้านก็จิบเบียร์ แม่บ้านก็จิบสปาย มิวายจะบ่นถึงครอบครัวพ่อซันอยู่บ่อยๆ ว่าเสียดายที่มาไม่ได้ ถ้ามาได้สมาชิกก็จะครบ และคงจะสนุกสนานกันครบทุกคน
จนประมาณเกือบๆ สี่ทุ่มก็อิ่ม เก็บของล้างถ้วยล้างชาม
เช็คเบียร์ดูอีกที ครั้งนี้เรากินกันแค่ 7 ขวดเองทั้งๆที่ซื้อมา 9 ขวด กะจะกินคนละสองขวด นี่เราคงจะแก่กันแน่ๆ แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ฮ่าๆๆๆ
เสร็จแล้วก็แยกย้ายเข้านอนกัน
เจี๊ยบห้อง 1 , ลุงป๋อง ห้อง2 และ ลุงศักดิ์ ห้อง 3
- เช้าวันที่ 22
เราตื่นกันแต่เช้าตรู่ ออกมานั่งจิบกาแฟกินขนมปัง กับบรรยากาศดีๆ ที่ซุ้มศาลาหน้ารีสอร์ทที่เดิม อากาศเย็นสบาย ลมทะเลพัดเอื่อยๆ ทะเลสงบ ทุกอย่างเป็นส่วนตัว เป็นที่ถูกอกถูกใจเราทุกคน
เช้านี้มีนกสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลย โดยเฉพาะนกจาบคาหัวสีส้ม ลุงศักดิ์ตามถ่ายได้สวยๆ หลายรูป
พอสายๆ หน่อยรู้สึกหิวกัน
แม่บ้านเล็กจะทำข้าวผัดกระเพราให้กินอีกมื้อ
โดยเอาผัดกระเพราหมูที่เหลือเมื่อคืนมาผัดคลุกกับข้าวเลย โดยข้าวเปล่าก็ที่เหลือเมื่อคืนเหมือนกัน แต่ดูแล้วจะน้อยไปสักหน่อย ป้านาก็เลยอาสาเดินไปจะขอยืมมอเตอร์ไซด์น้องทหารเพื่อจะขี่ไปหาซื้อข้าวเปล่า แต่พอดีลุงทหารเจ้าของรีสอร์ทออกมาพอดี แกใจดีมากให้น้องทหารเข้าไปตักข้าวเปล่าของแกมาให้ชามใหญ่เลยฟรีๆ ป้านาก็เลยไม่ต้องออกไปหาซื้อ
.jpg)
ครู่เดียว ทุกคนก็ได้กินข้าวผัดเกระเพราหมูแสนอร่อย
สายๆหน่อย บรรดาแม่บ้านก็เดินเที่ยวไปในส่วนหลังรีสอร์ท มีมะม่วงให้เก็บด้วย ลุงเล็กแกไม่หวงแกบอกเก็บได้เลย
ลุงศักดิ์เดินตามถ่ายนกบนต้นไม้ ได้รูปนกสวยๆ สมใจ
ประมาณเก้าโมงกว่าๆ ก็ต่างแยกย้ายกลับห้องเก็บข้าวของเตรียมเช็กเอ้าท์กลับบ้าน
- 11.00 น. ออกเดินทางกลับบ้าน
สิบเอ็ดโมงทุกคนก็พร้อมกันแล้ว
ให้เบียร์ลุงเล็กแกไปสองขวดที่เรากินไม่หมดเมื่อคืน ล่ำลาบ้านชมตะวันที่ถูกใจสัญญาว่า แล้วเราจะกลับมานอนพักกันใหม่แน่นอน
แต่ทุกคนพูดเหมือนกันว่า แล้วเดอะบีชเพื่อนเก่าละ .. นั่นสิ..แล้วค่อยว่ากันใหม่ละกันนะ
พร้อมแล้วเราก็ออกเดินทาง
ประมาณเที่ยงครึ่ง เราแวะร้านแม่กิมเฮ็งในปั๊มเอสโซ่ หาซื้อของฝากเพื่อนบ้านในซอย เล็กๆ น้อยๆ รวมถึงครอบครัวพ่อซันด้วย
จากนั้น ขับเลยไปอีกหน่อยไปแวะร้าน แม่กิมไล้ ที่นี่เรากินข้าวมื้อกลางวันกัน
ลุงป๋องตั้งใจจะหาซื้อโมบายจะไปแขวนที่บ้านที่นี่ แต่เดินหาไม่มีขายแล้ว
เราใช้เวลาไม่นานนักก็กินกันเสร็จ ได้เวลาออกเดินทาง มุ่งตรงกลับบ้าน
ประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง ถึงบ้านซอย 20/5 โดยสวัสดิภาพ
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า ตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องไปเที่ยวสนุกสนานกันให้ครบทุกครอบครัวให้ได้...
